Ozone Therapy การบำบัดด้วยโอโซนใช้ประโยชน์จากลักษณะโครงสร้างที่ไม่เสถียรของตัวโอโซน ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ส่งผลฆ่าและยับยั้งแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส หรือจุลินทรีย์ชนิดที่สามารถเติบโตได้โดยไม่อาศัยออกซิเจนในร่างกาย (Anaerobic microorganisms) และช่วยกำจัดสารพิษและของเสียที่สะสมในร่างกายให้สามารถขับออกทางตับและไตได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวให้มีปริมาณเพียงพอเพื่อปกป้องและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
ประโยชน์ของโอโซนบำบัด
- กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้มีปริมาณเพียงพอต่อการปกป้องร่างกาย
- เพิ่มประสิทธิภาพในกำจัดเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว จากระดับแกมมาอินเตอเฟียรอนที่เพิ่มขึ้น 400-900%
- กระตุ้นการหลั่งอินเตอร์ลิวคินจากลิมโฟไซต์ เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรค
- เพิ่มความยืดหยุ่นของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง จึงทำให้เซลล์เม็ดเลือดสามารถเคลื่อนตัวผ่านไปยังหลอดเลือดฝอยเล็กๆ ได้มากขึ้น มีประโยชน์ในการรักษาแผลเรื้อรังจากเบาหวาน และแผลกดทับ
- เพิ่มการผลิตพลังงานในไมโตคอนเดรีย ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย และเพิ่มสมรรถภาพการออกกำลังกายในกลุ่มนักกีฬา
- กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ได้แก่ ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตส คาตาเลสและกลูต้าไธโอนเปอร์ออกซิเดส
โอโซนบำบัดเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด หรือมีภาวะติดเชื้อ
- ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ เริม งูสวัด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยโอโซนอะตอมเดี่ยวจะไปเกาะกับผิวของเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งถูกกำจัดไปโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ ลมพิษ หอบหืด
- ผู้ป่วยโรคภูมิเพี้ยน SLE รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต รวมทั้งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยพาร์คินสันที่เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ
- ผู้ที่มีปัญหาแผลเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวาน แผลกดทับในผู้ป่วยที่ต้องนอนนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน โรคที่เกี่ยวกับเชื้อรา
ข้อควรทราบเมื่อต้องการทำโอโซนบำบัด
- การทำโอโซนบำบัดในแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- ควรตรวจร่างกายทั้งระบบอย่างละเอียดเพื่อประเมินภาวะของสุขภาพ
หลังทำโอโซนบำบัดสามารถประกอบกิจกรรมได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องนอนพัก